คนส่วนมากมักนึกเอาว่า กิจกรรมที่ทำให้เกิดภาวะก๊าซเรือนกระจกแล้วทำให้โลกร้อน มาจากภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นความเชื่อและความเข้าใจที่ถูกต้องส่วนหนึ่ง มากไปกว่านั้นภาคเกษตรกรรมก็มีส่วน แต่ในทางกลับกันภาคเกษตรยังสามารถช่วยลดโลกร้อนได้ด้วย
กิจกรรมภาคเกษตรที่ทำให้โลกร้อน มีตั้งแต่เรื่องการเผาที่นาที่ไร่ ที่โล่ง การใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีเกษตร เศษซากพืชที่หมักจมอยู่ในน้ำ กระทั่งปศุสัตว์เคี้ยวเอื้องที่ขยันผายลม
แต่เมื่อใดมีการบริหารจัดการที่ถูกต้อง เมื่อนั้นที่เคยเสียหายก็กลายเป็นดี เช่น จากที่เผาตอซังก็ใช้ไถกลบแทน อันนี้ก็เลี่ยงคาร์บอนไดออกไซด์ได้โดยตรง ดินก็ไม่เสียหาย ซ้ำได้อินทรียวัตถุเพิ่มขึ้น
เจ้าอินทรียวัตถุนี่ นอกจากทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย รากพืชชอนไชหาอาหารได้ง่ายขึ้นแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการไปแก้ปมใหญ่ที่ปุ๋ยเคมีขี้ทิ้งไว้ แน่นอนปุ๋ยเคมีมีประโยชน์ เพราะมีธาตุอาหารเข้มข้น แต่ใช้ไปๆไม่บันยะบันยัง นอกจากเสียกะตังค์แพงแล้ว ปุ๋ยตกค้างเหล่านี้ดินไม่สามารถดูดธาตุอาหารได้ อธิบายภาษาชาวบ้าน ดินที่ใช้ปุ๋ยเคมีนานๆมันจะรัดรึงไม่ให้เม็ดปุ๋ยปลดปล่อยธาตุอาหารได้ รากพืชก็ไม่สามารถดูดกินได้ ใส่ปุ๋ยเคมีก็เท่ากับทิ้งเงินเปล่าประมาณนั้น
ในปี 2554 กรมพัฒนาที่ดิน มีโครงการลดโลกร้อน ผ่าน 3 โครงการในพื้นที่รวม 27,500 ไร่ โดยโครงการแรกเป็นการรณรงค์ไถกลบตอซังแทนการเผา ในพื้นที่นา อ้อย และข้าวโพด จำนวน 250 ตำบล ตำบลละ 20 ไร่ รวม 5,000 ไร่ โครงการที่สอง ปลูกไม้โตเร็วในพื้นที่สาธารณะ วัด โรงเรียน ที่รกร้าง 20,000 ไร่ โครงการสุดท้าย การรณรงค์ลดการเผาไร่เผาป่าเพื่อปลูกพืชไร่ในที่โล่ง พื้นที่ภาคเหนือ 8 จังหวัด 2,500 ไร่
ท่านรองอธิบดีบอกว่า ผลกระทบจากการเผาตอซัง เผาป่า ทำให้ดินเสื่อมเสีย จุลินทรีย์มีประโยชน์พลอยตายไปด้วย สิ่งแวดล้อมก็เน่า และโลกก็พลอยร้อนระอุยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังเท่ากับเผาเงินเผาทองของตัวเองทิ้งไปด้วย
อย่าลืมว่า ตอซัง มีธาตุอาหารจำเป็นของพืช ทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโปแตสเซียม คิดเป็นมูลค่าไร่ละ 800-900 บาทเชียว ถ้าใช้วิธีไถกลบ นอกจากเพิ่มความสมบูรณ์ให้ดินแล้ว ยังลดต้นทุนปุ๋ยอีก ยิ่งถ้าปลูกพืชปุ๋ยสดจำพวกปอเทือง ถั่วพร้าซ้ำ แล้วไถกลบอีกรอบ รับประกันว่าดินจะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะปุ๋ยเคมีที่ตกค้างในดินปลดปล่อยธาตุอาหารได้ รากพืชดูดใช้งานได้สบาย
ส่วนการรณรงค์ลดการเผาพื้นที่การเกษตรในที่โล่งภาคเหนือ แก้ไขโดยเปลี่ยนระบบการผลิตไปเป็นการปลูกไม้ยืนต้น หรือไม้ผลมากขึ้น ซึ่งช่วยได้หลายเด้ง ทั้งลดการเผา เพิ่มความชุ่มชื้น และลดปัญหาดินถล่มได้ดีขึ้นระดับหนึ่ง
อ้างอิงจากเว็บ ryt9
